การศึกษากระบวนการปรับตัวที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน

A Study of Student’s Effective Adjustments Process for Living in The Private University

  • วัณยรัตน์ คุณาพันธ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • สมโภชน์ อเนกสุข คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • ดลดาว ปูรณานนท์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาการปรับตัวของนักศึกษาในสถาบัน อุดมศึกษาเอกชน สังเคราะห์กระบวนการการปรับตัวจากประสบการณ์ของนักศึกษา วิเคราะห์ประสิทธิภาพกระบวนการปรับตัวและทางเลือกในการนำไปใช้ของนักศึกษา การศึกษาเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 2 ในปีการศึกษา 2559 จำนวน 1,250 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามแบบประมาณค่า 5 ระดับ และแบบสอบถามปลายเปิดที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์จำแนกกลุ่ม ส่วนการศึกษาเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างผู้ให้ข้อมูล นักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 2 ในปีการศึกษา 2559 จำนวน 20 คน เก็บข้อมูลโดยการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาร่วมกับผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ


ผลการศึกษาพบว่า


  1. ปัญหาการปรับตัวของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ด้านสิ่งแวดล้อมมีค่าเฉลี่ย ปัญหาสูงสุดในระดับมาก คือ มีเวลาพักผ่อนหย่อนใจน้อยมาก ด้านความจำเป็นต่อร่างกายมีค่าเฉลี่ยปัญหาสูงสุดระดับมาก คือ รับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบทุกประเภท ด้านการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยปัญหาสูงสุดระดับปานกลางคือ มีหลายรายวิชาที่นักศึกษารู้สึกว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านเรียนอย่างแท้จริง

  2. กระบวนการปรับตัวของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาเอกชนมี 2 ลักษณะ รวม 4 กระบวนการ คือ
    ลักษณะที่ 1 การปรับตัวเบื้องต้น ใช้กระบวนการที่ 1 วิธีการเบื้องต้นการเพิ่มความพยายามและการปรับหรือเปลี่ยนเป้าหมายที่ตั้งไว้
    ลักษณะที่ 2  ถ้าการปรับตัวเบื้องต้นไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากสาเหตุร่วมทางจิตใจ: ใช้กระบวนการที่สอดคล้องกับสาเหตุนั้นคือ กระบวนการที่ 2 ความคับข้องใจ: ใช้วิธีการจัดการความคับข้องใจได้แก่  การควบคุมตนเองและพฤติกรรมถอยหลัง กระบวนการที่ 3 ความขัดแย้งใจ: ใช้วิธีการจัดการความขัดแย้งใจ ได้แก่ การใช้เหตุผลในการตัดสินใจ การเผชิญความจริง และการหลีกหนีความจริง กระบวนการที่ 4 ความเครียด: ใช้วิธีการจัดการความเครียด ได้แก่ การบำบัดทางธรรมชาติ และใช้กลไกทางจิต      

  1. ประสิทธิผลของกระบวนการปรับตัวเบื้องต้น ด้วย กระบวนการที่ 1 ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านความจำเป็นต่อร่างกาย และด้านการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยรวม การปรับตัว ที่ประสบความสำเร็จทุกด้านในระดับมาก กระบวนการที่ 2 ความคับข้องใจมีค่าเฉลี่ยรวมการปรับตัวที่ประสบความสำเร็จในระดับมาก กระบวนการที่ 3 ความขัดแย้งใจมีค่าเฉลี่ยรวมการปรับตัวที่ประสบความสำเร็จในระดับมาก และกระบวนการที่ 4 ความเครียด มีค่าเฉลี่ยรวมการปรับตัวที่ประสบความสำเร็จในระดับมาก

การวิเคราะห์ประสิทธิผลโดยพิจารณาจากสมการจำแนกกลุ่มทุกกระบวนการพบว่า สามารถจำแนกกลุ่มที่ปรับตัวได้กับกลุ่มปรับตัวไม่ได้ออกจากกันได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทางสถิติที่ระดับ .05


ค่าสัมประสิทธิ์มากที่สุดของแต่ละสมการจัดประเภทในรูปคะแนนดิบของของกลุ่มที่ปรับตัวได้ คือกระบวนการที่ 1 ได้แก่  การปรับเปลี่ยนเป้าหมาย (14. 90) กระบวนการ 2 กลุ่มที่ปรับตัวได้ ได้แก่ การควบคุมตนเอง (8. 68)  กระบวนการ 3 กลุ่มที่ปรับตัวได้ ได้แก่ การใช้เหตุผล  (6.63) และ กระบวนการ 4 กลุ่มที่ปรับตัวได้ ได้แก่  การใช้วิธีการธรรมชาติ (4. 81) 


The objectives of the research were 1) to study the students problems at private university, 2) to synthesize the adjustment process from the experience of students, 3) to analyze, the effectiveness of adjustment process and the ways for  each  process. Study: The samples


quantitative for the quantitative data collection were 1,250 students in academic year 2016. A five scale questionnaire was used for collecting data. The statistics used were mean, standard deviation and discriminant analysis. For qualitative study, the participants were  20 students of second year students in academic year 2016. The data collected by Focus group interview, Content analysis combined with quantitative study results were used for analyzed data.  


The findings were as follows:


  1. The student adjustment problems at the private university were: 1) environment, the item of highest mean was ‘The students had very less time for relaxation,’ 2) physical necessity; the item of highest mean was  ‘You had mulnutritious food,’ 3) learning, the item of highest mean was ‘The students not know many subjects clearly’

  2. The students at the private university, had two patterns of adjustment: The first pattern was related to process 1 the increase of attempt and the change of goals, and, if initial attempt of adjustment was not successful, the second pattern was involved with the implementation of processes 2 to process 4 in accordance with such causes, process 2 frustration, which was dealt with the process of self-control and regression, process 3 conflicts, which were about the process of rationalization, reality confrontation, and reality avoidance, and process 4 stress or pressure, which was about the process of the natural therapy and the mental mechanism. 

  3. The effectiveness of adjustment processes were that: process 1; The three problems;  environment, physical necessity and learning students were found to be at the highest level mean of successful to adjustment. Process 2; frustration , process 3; conflicts   and  process 4; stress, all of  those problems were found to be at  highest level mean of  students successful adjustment

           The consideration of effectiveness with discriminant functions showed that the overall separation of group successful using of each functions was statistical significance at 0.5 level


           The row score highest weighting coefficients of classification function of successful adjustment groups of each process. for decision using were;


           Process 1 was the goal change (14.90)


           Process 2 was self-control (8.68)


           Process 3 was rationalization (6.63)

References

ถอนบทความเนื่องจากมีการตีพิมพ์ซ้ำซ้อน
Published
2018-12-28
How to Cite
คุณาพันธ์, วัณยรัตน์; อเนกสุข, สมโภชน์; ปูรณานนท์, ดลดาว. การศึกษากระบวนการปรับตัวที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน. วารสาร ศึกษาศาสตร์ มมร, [S.l.], v. 6, n. 2, p. 90-103, dec. 2018. ISSN 2408-199X. Available at: <http://705527.funfizzhk.tech/index.php/edj/article/view/292>. Date accessed: 01 dec. 2024.